ภาพจาก : brainy-house.com |
เรื่องสำเนียงการออกเสียงนั้นอย่าไปตั้งความหวังมากนักครับ ถ้าครูคุณสอนดีและคุณขยันเรียน สำเนียงและการอกเสียงจะดีขึ้นเป็นที่เข้าใจแน่นอน แต่จะหวังให้เป็นอย่าง British อะไรนั้นน่าจะยาก เพราะคุณมาเรียนเอาตอนโตแล้ว อิทธิพลการแทรกแซงของภาษาแม่มีผลค่อนข้างมาก น้อยคนนักที่จะหลุดพ้นจากความจริงข้อนี้ได้
สำเนียงที่แตกต่างกันเป็นความจริงที่มีอยู่จริงและเป็นเรื่องธรรมชาติ แม้ในกลุ่มเจ้าของภาษาเองก็ตาม จะว่าไปภาษาอังกฤษหน้าที่มันก็เป็นแค่เครื่องมือหนึ่งที่ทำให้คนต่างชาติต่างวัฒนธรรมเข้าใจกันก็เท่านั้นเอง ไม่ได้ศักดิ์ศรีสูงส่ง หรือเรียนได้ยากกว่าภาษาใดเลยจนต้องเสียเงินแพงๆไปจ้างครูฝรั่งเก่งๆมาสอน ซึ่งในเมืองไทยบอกตามตรงว่าสุ่มเสี่ยงต่อการได้ฝรั่งขี้นกมาสอนเป็นอย่างมาก
จึงอยากทำใจเป็นกลาง มองโลกความเป็นจริงว่า ภาษาอังกฤษเป็นของคนทั้งโลกไม่มีใครเป็นเจ้าของอีกต่อไป ทุกคนมีสิทธิที่จะพูดติดสำเนียงภาษาแม่ของตัวตราบใดที่ยังออกเสียงได้ถูกต้องเป็นที่เข้าใจได้ ในส่วนของเสียงพยัญชนะ สระ หนักเบา ทำนองเสียง ฯลฯซึ่งเรียนกันได้ไม่ยาก เรียนเองยังได้ถ้ารู้จักเรียน
ความเชื่อที่ว่าต้องเรียนภาษาอังกฤษแล้วพูดแบบฝรั่งนั้นยังจะมีต่อไปตราบนานเท่านาน และเป็นช่องทางให้สถาบันทั้งหลายหลอกเอาเงินคนเรียนต่อไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ทางแก้คือเปลี่ยนทัศนคติใหม่ และเน้นพัฒนาทักษะในการเรียนรู้ด้วยตัวเองมากขึ้น แต่แนวคิดนี้จะเป็นไปได้ในกลุ่มคนเรียนคนไทยแค่ไหน ใครก็คงตอบไม่ได้ ไว้รอดูกันต่อไป
คงเข้าใจมากขึ้นนะครับ แต่ก็เป็นการดีที่ว่าหากคุณต้องการ เรียนภาษาอังกฤษตัวต่อตัว แล้วหล่ะก็ต้องมีงบประมาณพอสมควรเลยทีเดียว เพราะการที่เจ้าของภาษาจะมาสอนเราแบบตัวต่อตัวนั้นเค้าคิดราคาค่อนข้างแพงครับ คพอตัดสินใจได้ในระดับนึงนะครับ
สำหรับท่านที่อยากฝึกพูดภาษาอังกฤษแต่ไม่มีไอเดียนึกบทสนทนาไม่ออกไม่รู้จะเริ่มต้นพูดอย่างไรดี ลองเข้าไปฝึกผ่านบทสนทนาภาษาอังกฤษในโอกาสต่างๆได้ที่ speakingenglishone.blogspot.com ดูก่อนก็ได้ครับ
ตอบลบ